คุณคงสงสัยใช่ไม่ครับถึงความแตกต่างของดาวที่วัดระดับโรงแรมแต่ละแห่งครับ ว่าเขาวัดกันที่ตรงไหนซึ่งจริงๆ แล้วขาไม่ได้จัดอันดับกันมั่วๆ นะครับ ซึ่งก่อนที่จะได้การรับประกันต้องผ่านการตรวจสอบจากหน่วยงานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องซะก่อน ไม่ใช่ว่าจะมีเพียงราการก่อสร้างที่เยอะเพียงเท่านั้น แต่ต้องอาศัยหลักเกณฑ์ อื่นๆ เป็นองประกอบกด้วย ซึ่งในประเทศไทย จะเห็นได้ว่าส่วนใหญ่จะเป็นระดับ 3 ดาวครับ สำหรับส่วนตัวแล้วรู้สึกว่าเท่านี้ก็เพียงพอมากแล้ว เพราะในการค้างเพียงคืนเดียวส่วนใหญ่แล้วนักท่องเทียวธรรมดาแบบเรามักจะมุ่งประเดนไปยังสถานที่ตอนออกจากโรงแรมมากกว่าแต่สำหรับนักธุรกิจที่มีความเครียดเพราะต้องเดินทางไปทำงานนั้นต่างกัน สิ่งที่เขาต้องการคือการผ่อนคลายเครียดซึ่งสิ่งเหล่านี้จะมีอยู่ในโรงแรม 5 ดาวครับ เราจะลองมาดูหลักเกณฑ์ที่ใช้ตัดสินกันครับว่ามีอะไรบ้าง
เรื่องแรกเลยก็คือ 1. ความสะอาดครับ โดยส่วนใหญ่แล้วไม่ว่าจะระดับไหนก็ต้องมีการเก็บผ้าปูปลอกหมอนทุกครั้งเมื่อลูกค้าออกจากห้องพัก โดยจะมีหนักงานคอยทำความสะอาดอยู่เสมอแต่สำหรับ โรงแรม 5 ดาวนั้น จะมีการทำความสะอาดเป็นประจำหรือทุกวันเลยก็ว่าได้ แม้จะไม่มีใครเข้าพักก็ตาม เพื่อให้สามารถต้อนรับลูกค้าได้ทุกวันนั่นเอง
- บริการครับ โดยทั่วไปแล้วจะมีเค้าเตอร์ด้านหน้าเพื่อติดต่อประสานงาน หรือเรียกว่าฟอนต์นั่นเอง แต่สำหรับ 5 ดาวนั้นจะมี พนักงานตอนรับกล่าวทักทายรวมทั้งอำนวยความสะดวกต่างๆ ตั้งแต่ท่านเดินเข้าสู่โรงแรมเลยทีเดียว พร้อมกับสอบถามความต้องการของแขกที่เข้ามาพัก สุดท้ายก็เปิดห้องให้เสร็จเลย โดยที่ผู้เข้าพักแทบจะไม่ต้องดำเนินการด้วยตัวเองเลย
นอกจากนี้โรงแรม 5 ดาวยังมีอุปกรตกแต่งเสริมทั้งอ่างแช่น้ำอุ่น บรรยากาศห้องนอน และบริการเสริมอื่นๆ อีกมากมายครับ